ไม่จำเป็นต้องอุ่นร้อน สามารถรับประทานได้เลยครับ โดยเฉพาะกรณีนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ทานอาหารทางสายยาง ควรผสมน้ำดื่ม อุณหภูมิห้อง คนให้ เบลนดีควิก กับน้ำเข้ากันดี แล้วฟีดได้เลย สำหรับผู้ที่รับประทานได้เอง สามารถนำ เบลนดีควิก ผสมกับน้ำแล้วไปอุ่นร้อน รวมถึงเติมส่วนผสม และเครื่องปรุงรสเพิ่มเติม เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการรับประทานได้

เบลนดีควิก ถูกออกแบบ และผลิตให้เป็นแบบเข้มข้น เพื่อทำให้เกิดความสะดวกในการพกพาและขนส่ง ที่สำคัญเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่น และความคล่องตัวในการนำไปใช้งานอีกด้วย หมายถึง หากผู้บริโภคไม่ต้องการผสมน้ำเท่ากับที่แนะนำคือ เบลนดีควิก 1 ส่วน น้ำ 1 ส่วน (เบลนดีควิก 175 กรัม / น้ำ 175 ซีซี) เช่น คนที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำ ก็สามารถปรับลดน้ำตามความเหมาะสมได้ อาหารที่ได้ก็จะมีความข้นเหลวแตกต่างไป โดยไม่มีผลต่อพลังงาน และคุณค่าสารอาหารที่ผู้บริโภคจะได้รับแต่อย่างใด

เนื่องจาก เบลนดีควิก ผลิตด้วยกรรมวิธีที่มีการปั่นส่วนผสมทุกอย่าง ด้วยเครื่องปั่นชนิดละเอียดพิเศษ ทำให้ เบลนดีควิก สามารถใช้กับผู้ที่รับอาหารทางสายยางได้ ทั้งนี้ หากต้องการให้อาหารในสายไหลลื่นได้ดี แนะนำให้นำ เบลนดีควิก ที่ผสมกับน้ำแล้ว มากรองด้วยตะแกรงกรองอาหารอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มการกระจายตัวของส่วนผสม ก่อนนำบรรจุลงถุงอาหาร

เบลนดีควิก ผลิตจากวัตถุดิบตามธรรมชาติทั้งหมด เหมือนอาหารที่เรารับประทานทุกวัน แต่ได้รับการคำนวณพลังงานและคุณค่าทางโภชนาการไว้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ ไม่มีการแต่งเติมสารสังเคราะห์ใดๆ เพิ่มเติม รวมถึงวัตถุกันเสีย จึงทำให้ผู้บริโภคได้รับคุณประโยชน์ที่ครบถ้วน หลากหลาย พร้อมกากใยจากธรรมชาติจริงๆ อีกทั้งยังมีความสะดวก รวดเร็ว สะอาด และได้มาตรฐาน เมื่อเทียบกับอาหารเหลวที่ต้องเตรียมด้วยตัวเอง

สามารถเก็บรักษา เบลนดีควิก ที่ยังไม่ได้ผสม ไว้ในภาชนะสะอาด มีฝาปิดมิดชิด นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา เก็บรักษาได้เป็นเวลา 2 วัน อย่างไรก็ดี เบลนดีควิก ได้รับการออกแบบและคำนวณปริมาณต่อซอง ให้เหมาะสมต่อการบริโภคต่อครั้ง จึงแนะนำให้ใช้ให้หมดทันทีหลังจากฉีกออกจากซองแล้วในครั้งเดียว

เนื่องจาก เบลนดีควิก มีกล้วยและไข่ไก่เป็นส่วนประกอบ จึงอาจพบจุดดำจากวัตถุดิบทั้งสองนี้บ้างตามธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งเจือปนที่ต้องคัดออก สามารถบริโภคได้ตามปกติ แม้เป็นผู้ป่วยที่รับอาหารทางสายให้อาหาร

แม้ เบลนดีควิก จะไม่มีการเติมน้ำตาล รวมถึงมีสูตรที่ใช้เนื้อปลาแทนเนื้อไก่ แต่ผู้ป่วยโรคในกลุ่มดังกล่าวข้างต้น ตลอดจนผู้ป่วยเฉพาะโรคอื่นๆ มีข้อควรระวังในการรับประทานอาหารเป็นพิเศษ จึงควรได้รับคำแนะนำและปรึกษาปริมาณการใช้ กับนักกำหนดโภชนาการ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

เด็กเล็กสามารถทานได้ครับ โดยเริ่มตั้งแต่เด็กเล็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป ปริมาณและสัดส่วนควรปรับเปลี่ยนไปตามวัยและน้ำหนักตัวของเด็ก

ไม่มีอันตรายใดๆ เนื่องจาก เบลนดีควิก ผลิตจากวัตถุดิบตามธรรมชาติทั้งสิ้น และใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Retort Pouch พร้อมผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อแบบสเตอริไลซ์เซชั่น (Sterilization) จึงสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน และไม่มีการใช้วัตถุกันเสีย อย่างไรก็ดี การดูดซึมสารอาหาร และความต้องการของร่างกายแต่ละคน ย่อมมีความแตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรมีการเจาะเลือดตามระยะที่แพทย์แนะนำ เพื่อสังเกตและติดตามความเปลี่ยนแปลงของค่าต่างๆ ภายในร่ายกาย ซึ่งอาจต้องมีการปรับเพิ่มหรือลดอาหารชนิดอื่นๆ ตามความเหมาะสม